วันอังคารที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2554

ลดน้ำหนัก 500 กิโลแคลอรี จาก 5 ท่า





โดยเฉลี่ยสาวออฟฟิศจะได้รับพลังงานวันละ 1,800-2,200 กิโลแคลอรี จากอาหารที่กินเข้าไป แต่ใช้พลังงานเพียงแค่ 700-2,000 กิโลแคลอรีเท่านั้น ส่วนที่เหลือจะสะสมเป็นน้ำหนักส่วนเกินน่ากลุ้มใจ จึงต้องอาศัยการออกกำลังกายช่วยเพิ่มการเผาผลาญพลังงาน        หากต้องการลดน้ำหนัก 1 กิโลกรัม เราจะต้องเผาผลาญพลังงานมากถึง 7,700 กิโลแคลอรี การออกกำลังกายต่างชนิดกันจะช่วยเผาผลาญพลังงานตั้งแต่ 150-1,200 กิโลแคลอรี่ต่อชั่วโมง หากรู้จักเลือกท่าออกกำลังกาย ก็จะช่วยให้เผาผลาญพลังงานได้มากในระยะเวลาอันสั้น

       มีโปรแกรมออกกำลังกาย 5 ท่าที่ใช้เวลาไม่นาน และเห็นผลจริง มาให้ลองยืดเส้นยืดสายต้านไขมันกัน


1.โปรแกรมคาร์ดิโอ   เริ่ม อุ่นเครื่องเพื่อกระตุ้นการเผาผลาญพลังงานของร่างกาย โดยเดินเร็วหรือวิ่งเหยาะๆ 5 นาที จากนั้นเร่งจังหวะให้เร็วขึ้น 5 นาที แล้วพักสัก 2 นาที
2.ท่าจั้มพ์   ยืน ตัวตรง เท้าห่างประมาณช่วงไหล่ ทิ้งน้ำหนักตัวที่ปลายเท้า มือทั้งสองข้างชูดัมบ์เบลน้ำหนักครึ่งกิโลกรัมขึ้นเหนือศีรษะ งอข้อศอกเล็กน้อย กระโดด 5 ครั้ง แล้วเหยียดแขนลงข้างหน้า พักสักครู่ แล้วชูแขนขึ้น ทำซ้ำ 5 รอบ
3.ท่าเครื่องบิน   ยืน ตัวตรง เท้าห่างประมาณช่วงไหล่ แขนทั้งสองข้างถือดัมบ์เบล เตะขาซ้ายไปด้านหลัง (ไม่ต้องเหยียดตรง) โน้มตัวไปข้างหน้าให้หลังขนานกับพื้น เมื่อทรงตัวได้เริ่มกางแขนออกให้ขนานกับพื้น เกร็งค้างไว้ประมาณ 5 วินาที แล้วจึงเอาแขนลง สลับขา ทำซ้ำ 12 รอบ
4.ท่าปั่นจักยานสลับข้าง   นอน หงาย มือทั้งสองประสานไว้ที่ท้ายทอย ยกขาขึ้นทำท่าเหมือนปั่นจักรยานในอากาศ ยกไหล่ซ้ายบิดตัวไปทางขวา สลับข้าง 3 ครั้ง ปล่อยศีรษะแนบพื้น มือยังคงประสานที่ท้ายทอย ประมาณ 5 วินาที แล้วทำซ้ำอีก 5 รอบ 
5. ท่าวงกลม   โดย ยืนตัวตรง ปลายเท้าแยกห่างประมาณ 2 ช่วงไหล่ ก้มตัว เหยียดแขนตรง ปลายนิ้วแตะพื้น วาดแขนออกด้านข้างวนเป็นวงกลม พักสักครู่ก่อนทำซ้ำ 10 รอบ
       เมื่อทำติดต่อกันครบ 5 ท่า จะช่วยเผาผลาญพลังงานได้ประมาณ 500 กิโลแคลอรี สำหรับท่าที่ 2 และ 4 หากเร่งจังหวะได้เร็วขึ้น จะช่วยเพิ่มการเผาผลาญพลังงานได้ดียิ่งขึ้น


สมุนไพรลดน้ำหนัก หุ่นสวยแบบไม่ต้องพึ่งยา
สมุนไพรลดน้ำหนัก หุ่นสวยแบบไม่ต้องพึ่งยา


ผอมเพรียวเป็นที่ปรารถนาของสาวทุกคน แต่ใครที่เผลอตัวเผลอใจเอ็นจอยกับการกินมากไปหน่อย พอรู้ตัวอีกทีก็อ้วนซะแล้วและอยากลดน้ำหนัก แต่ไม่รู้จะใช้วิธีไหนให้ปลอดภัยและได้ผล วันนี้เรามีสูตรเด็ดในการนำสมุนไพรมาช่วยในการลดความอ้วน รับรองได้ผลและปลอดภัยจากอาการโยโย่อีกด้วย



สมุนไพรที่ใช้ในการลดน้ำหนักแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม

1.สมุนไพรที่ยับยั้งการสร้างกรดไขมัน มี 2 ชนิด

ส้มแขก

สารสกัดจากส้มแขกที่มีกรดไฮดรอกซี่ซีติกเอซิด จะช่วยยับยั้งเอนไซม์ตัวหนึ่งชื่อ ซิเตรทไลเอส เมื่อเรากินอาหารเข้าไปจะทำให้ปฏิกิริยาในร่างกาย เปลี่ยนอาหารเป็นพลังงาน ATP แต่จะไม่สร้างกรดไขมันขึ้น ทำให้เราไม่มีไขมันสะสมในร่างกาย ทำให้ผอมลง

หากกินส้มแขกก่อนอาหารสักครึ่งชั่วโมงจะช่วยทำให้กินข้าวได้น้อยลง ลดความอยากอาหารลงได้ 10% และทำให้กินข้าวได้น้อยลง ลดความอยากอาหารลงได้ 10% และทำให้ไม่ค่อยหิว ฉะนั้นจึงทำให้อดอาหารได้มากขึ้น ส่วนปริมาณในการกิน ควรกินประมาณ 500-700 มิลลิกรัม

พริก

ในความเผ็ดของพริกจะมีสารแคปไซซิน ที่ทำหน้าที่ให้ปฏิกิริยาของร่างกายไม่สร้างกรดไขมันขึ้น และจะช่วยในการลดน้ำหนักได้ ถ้ามีแคปไซซินมากๆ ก็จะไปยับยั้งการสร้างกรดไขมัน

2.สมุนไพรที่มีเส้นใยสูง เช่น มะเขือพวง เม็ดแมงลัก

มะเขือพวง

ในตำรายาไทยบอกว่า มะเขือพวงมีฤทธิ์แรงในการลดน้ำหนัก และยังช่วยให้ระบบเผาผลาญดี ขับถ่ายได้ง่าย สามารถนำมาทำอาหารได้หลายอย่าง เช่น ทำแกงป่า ทำน้ำพริก

เม็ดแมงลัก

เม็ดแมงลักเป็นอาหารที่มีแคลอรีน้อยมากๆ จึงเป็นอาหารที่เหมาะกับการลดน้ำหนัก และมีวิธีกินง่ายๆ เพียงเอาน้ำแตงโมใส่เม็ดแมงลัก แล้วนำไปแช่ให้แข็ง กินเป็นอาหารเย็น ก็จะทำให้มื้อนั้นอิ่มสบายท้อง

นอกจากนี้ยังมีสมุนไพรอีกชนิดหนึ่งคือ ชาสมุนไพร ที่มีคุณสมบัติช่วยยับยั้งความอยาก ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้คุณตบะแตกจากการลดน้ำหนักได้ง่าย

สูตรชาสมุนไพรลดความอยาก

เวลาที่คุณหิว หรืออยากกินโน่นกินนี่ ให้แก้ด้วยการดื่มชามะนาวทุกครั้งที่อยากกิน ให้นำน้ำอุ่นละลายกับชามา 1 แก้ว แล้วบีบมะนาวใส่ลงไป ห้ามใส่น้ำตาลเด็ดขาด จะช่วยดับความอยากได้ดีทีเดียว

เวลาที่อยากกินกาแฟ ลองดื่มชามะตูมกับชาตะไคร้ ไม่ใส่น้ำตาล ด้วยกลิ่นฉุนของมะตูมและตะไคร้จะช่วยลดความเปรี้ยวปากในการอยากกินกาแฟได้

สำหรับคนที่มีไขมันในเส้นเลือดสูง เป็นโรคความดันโลหิตสูงลองกินชาใบหม่อน จะช่วยบรรเทาอาการได้

วิธีลดน้ำหนักโดยการออกกำลังกายและการทานอาหาร ของชาว IT

วิธีการลดน้ำหนักมีหลายวิธีนะครับ แต่ผมจะเอากรณีของผมเป็นหลักนะครับ
โดยพื้นฐานของการลดน้ำหนักอย่างแรกคือการกินและดื่มครับ การดื่มน้ำมากๆโดยเฉลี่ย 2 ชม. 1-2 แก้ว [ประมาณ 1/3 ลิตร] จะช่วยให้คุณน้ำหนักลงได้เพราะน้ำทำให้การขับถ่ายดีและยังทำให้เรารู้สึกสดชื้น และการกินอาหารเป็นเวลาครับ โดยถ้าคุณกินอาหารเป็นเวลาจะทำให้คุณรู้น้ำหนักที่แน่นอนของคุณ
การชั่งน้ำหนักควรจะชั่งเวลาเดียวกันของแต่ละวัน เช่น ทุกๆ 8 โมงเช้าของทุกวัน เป็นต้น
โดยการทานอาหารของผมจะเป็นสาย Proteins หรือกินพวกเนื้อสัตว์ให้มากๆ โดยไม่ทานประเภททอด และลดการกิน ข้าว , ขนมปัง , ขนม และแต่ละมื้อควรกินแต่พอดีอย่ากินจนแน่นท้อง โดยเวลากินให้เคี้ยวสักพักค่อยกลื้น เพราะกระเพาะกว่าจะรับรู้ว่าอิ่มต้องใช้เวลาถึง 10-15 นาทีหลังจากกินอาหารคำนั้นเข้าไป
หากเรากินอาหารแล้วยังหิวนิดหน่อยให้กินผักหรือผลไม้ เข้าไปแทนนะครับจะได้พอดี ส่วนใหญ่ปัญหาจิงๆของคนกรุงเทพ คือตอนเช้าตื่นสายไปเรียน หรือไปทำงานไม่ทัน เลยไม่ได้กินข้าว ผมแนะนำว่าให้กิน Snack หรือ Protein Bar เข้าไปนะครับดีกว่าไม่กินอะไรเพราะตอนเช้าการกินอาหารจะกระตุ้น Metabolism ช่วยให้การเผาผลาญที่ดี
ควรจะกินอาหารเสร็จก่อน 6 โมงเย็นหรือไม่เกิน 1 ทุ่มแล้วเข้านอนหลังจากนั้นไม่เกิน 4-5 ชม. แล้วรวม ชม. นอนไม่ต่ำกว่า 6-8 ชม. เพื่อที่ร่างกายจะได้พักผ่อนและเผาผลาญอย่างเต็มที่
หลังจากคุณเริ่มทำได้แล้วคราวนี้การออกกำลังกายจะทำให้คุณไปถึงจุดหมายที่คุณตั้งไว้เร็วขึ้น ดังนั้นขึ้นอยู่กับความต้องการของคุณว่าต้องการลดเร็วแค่ไหน
การออกกำลังกายที่ได้ผล (สำหรับผม)
1. การปั่นจักรยานอยู่กะที่
วิธีเป็นวิธีหลักที่ทำให้ผมลดมาถึงตอนนี้อย่างได้ผลที่สุดโดย ตอนแรกผมปั่นจักรยาน อาทิตย์ละ 4-5 ครั้งโดยครั้งละ 40 นาทีหลังจากนั้น 1 เดือนผมก็ปั่น 3-4 ครั้งต่อสัปดาห์ถัดไปอีกเดือนผมก็ทำเป็นอาทิตย์ละ 2-3 ครั้งเรื่อยมา

2. การ Sit up
Sit up เป็นตัวเสริมที่ทำให้หน้าท้องของคุณลองเร็วขึ้นโดยเริ่มแรก Sit up จาก 10 ครั้งโดยทุกๆ 1 อาทิตย์ต้องเพิ่มอีก 10 ครั้งเช่น อาทิตย์แรกทำวันละ 10 ครั้งพออาทิตย์ต่อมาก็เป็น 20 ครั้ง แล้วทำอย่าหักโหมจนเกิดไปถ้าคุณลองทำไปเรื่อยๆแล้วมันไม่ไหวถึงตามกำหนดให้ใช้ข้อกำหนดเดิมแทน เช่น พอเราทำไปถึงอาทิตย์ที่ 4 ต้องทำวันละ 50 ครั้งแต่แล้วคุณทำได้ 48 ทีแล้วไม่ไหว วันถัดมาให้คุณทำแค่ 40 ครั้งพอนะครับจนครบ 1 อาทิตย์ค่อยลองใหม่

3. การยกดัมเบลส์
สำหรับคนที่อยากได้กล้ามก็ควรยกดัมเบลส์เพื่อเสริมกล้ามเนื้อนะครับ โดยทำเป็นเซ็ต เซ็ตละ 12 ครั้งโดยครบ 12 ครั้งแล้วต้องเปลี่ยนท่าไปเรื่อยๆครับ เรื่องนี้ต้องลองศึกษาเพิ่มเติมเอานะครับ

ส่วนใหญ่ที่ได้ผลของผมมาจาก 3 อย่างนี้โดยใน 1 วันที่เราจะออกกำลังกายให้เลือกสัก 2 อย่างใน 3 อย่างนี้นะครับโดยปั่นจักรยานจะเห็นผลที่สุดครับ
การออกกำลังกายอย่างสนุกสนาน
ผมละเป็นคนหนึ่งที่ไม่อยากออกกำลังกายเพราะมันเป็นเรื่องไม่สนุกและเหนื่อยอีกตะหาก แต่พี่ของผมก็ได้ให้วิธีมาคือการทำกิจกรรมอื่นๆพร้อมกับการออกกำลังกาย เช่น หากผมปั่นจักรยานอยู่ผมสามารถ ดูทีวี , อ่านการ์ตูน หรือแม้แต่เล่นเกมส์ Play ได้ดังนั้น 40 นาทีของคุณจะกลายเป็นเรื่องสนุกในทันที หรือการฟังเพลง ในเวลา Sit up ก็จะช่วยให้คุณหายเหนื่อยได้พอควรเลยทีเดียว

นี้ก็คงเป็นเคล็ดลับของผมที่ลดน้ำหนักจาก 75 เหลือ 68 ได้ในเวลา 3 เดือนนะครับ การออกกำลังกายต้องสม่ำเสมอนะครับแล้วเรื่องอาหารก็ไม่ควรที่จะละเลยนะครับ เตือนอีกนิดเรื่องการกิน ไม่ควรกินอาหารจำพวก ชีส ของทอด เป็นอันขาดนะครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น